เชลซี หลังจากฤดูกาลแรกที่เรียกศรัทธาคืนมาได้แบบเต็มเปี่ยม เอนโซ่ มาเรสก้า ก็พาเชลซีเดินหน้าสู่ปีที่สองของโปรเจกต์ฟื้นฟูด้วยพลังที่มากกว่าเดิม ทั้งในแง่ผลงาน แท็คติก และความเชื่อมั่นจากแฟนบอล
การได้ตั๋วแชมเปียนส์ ลีกและคว้าแชมป์คอนเฟอเรนซ์ ลีกเมื่อปีก่อนไม่ใช่เรื่องฟลุค แต่มันคือผลจากการเปลี่ยนแนวทางแบบยกเครื่อง ปีนี้จึงไม่ใช่แค่ต่อยอด แต่คือการไล่ล่าความยิ่งใหญ่อย่างจริงจัง [1]
สิงห์บลูส์ปี 2025/26 จึงพร้อมเต็มพิกัดกับภารกิจคืนเวทียักษ์ใหญ่ ทั้งในอังกฤษและยุโรป พร้อมเขียนบทใหม่ด้วยพลังของคนรุ่นใหม่ สไตล์ใหม่ และเป้าหมายใหม่ที่ชัดเจน
จากทีมที่เคยหลงทิศในช่วงหลายปี เชลซีกลับมาพร้อมพลังและแผนชัดเจน ทั้งการเสริมทัพดาวรุ่ง การรีเซ็ตแท็คติก และการดึงศรัทธาจากแฟนบอลกลับคืนมา การได้ตั๋วแชมเปียนส์ ลีกไม่ใช่แค่รางวัล แต่คือการปลุกชีวิตใหม่ให้ทีมเดินหน้าอย่างภาคภูมิ
ตลาดนักเตะปีนี้ เชลซีมาในโหมด “อนาคตต้องปัง!” ด้วยการเซ็นสัญญาดาวรุ่งเนื้อหอมแบบรัว ๆ ทั้ง เลียม ดีแลป, เอสเตวาโอ วิลเลียน, เคนดรี้ ปาเอซ และดาริโอ เอสซูโก้ ทีมไม่ได้เน้นซื้อตัวดังเพื่อหวือหวา แต่ขอลงทุนกับคนที่สร้างอนาคตได้จริง
วิสัยทัศน์ชัดว่าไม่เน้นแก้ปัญหาระยะสั้น แต่กำลังวางรากฐานระยะยาว ที่สำคัญแต่ละคนที่ซื้อมา ไม่ได้มาแค่แถม แต่ “พร้อมเล่นจริง” ในหลายรายการทันทีในปีนี้
แถมดีแลปยังปฏิเสธแมนยูแล้วเลือกเชลซี เพื่อโอกาสใน UCL! พูดเลยว่า สิงห์บลูส์ยังคงมีมนต์ขลังในการดึงดูดผู้เล่นเจ๋ง ๆ เสมอ
เป้าหมายปีนี้ไม่ได้หยุดแค่ติดท็อปโฟร์! เชลซีต้องการมากกว่านั้น ทั้งการทำผลงานในแชมเปียนส์ ลีกให้สนั่น และหวังสอดแทรกในลุ้นแชมป์ลีก ถ้าฟอร์มไหลลื่นเมื่อไหร่ ทีมอื่นมีหนาว!
จุดสำคัญคือความสม่ำเสมอ ที่ผ่านมาเล่นดีเป็นพัก ๆ ปีนี้ต้องล้างนิสัยนั้นให้หมด และต้องมีแผนสำรองที่หลากหลายเวลาตัวหลักเจ็บหรือฟอร์มตก
มาเรสก้าจะต้องโชว์ให้เห็นว่าไม่ได้มาแค่คุมบอล แต่คุมเกม คุมสถานการณ์ และปลุกนักเตะให้ฮึดได้ตลอดฤดูกาล [2]
ฤดูกาลนี้ เชลซีเปิดตัวชุดเหย้าสุดเท่ที่ผสมผสานวัฒนธรรมลอนดอนเข้าไปเต็มๆ สีน้ำเงินคลาสสิก ตัดลายกราฟิกโมเดิร์นแบบลอนดอน Pride ขลิบแดงขาวชวนว้าว เป็นชุดที่เรียกเสียงฮือฮาตั้งแต่วินาทีแรก
มันไม่ใช่แค่ชุดบอล แต่มันคือแฟชั่นบนสนาม แฟนบอลแห่จับจองกันตั้งแต่เปิดพรีออเดอร์ แถมคาดว่าในพรีซีซั่นและเกมใหญ่ๆ จะเห็นเสื้อตัวนี้วิ่งกันทั่วจอแน่นอน ชุดเยือนและชุดสามก็น่าสนใจไม่แพ้กัน สีดำทองและมิ้นต์เขียวที่ลือกันว่าหล่อจนอยากใส่ไปเดต [3]
ฤดูกาลนี้ เชลซีจัดหนักจัดเต็ม! เพราะต้องลุยทั้งพรีเมียร์ลีก, แชมเปียนส์ ลีก, เอฟเอ คัพ, คาราบาว คัพ และพิเศษสุดกับ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ กลางปีนี้อีก
ไม่ใช่แค่บทพิสูจน์ขุมกำลัง แต่นี่คือสนามฝึกปรือดาวรุ่งแบบอัดแน่น โปรแกรมแน่นแบบนี้แหละจะทำให้เห็นว่าทีมชุดนี้มีของจริงหรือแค่ฟอร์มชั่วคราว เชลซีปีนี้ต้องการลุ้นแชมป์ทุกรายการ ไม่ใช่แค่เข้าร่วม แฟน ๆ เตรียมลุ้นเหนื่อยแบบสุดสะใจได้เลย [4]
แม้แนวรุกจะดูไหลลื่นขึ้นเยอะ แต่แนวรับยังต้องลุ้นเหนื่อย โดยเฉพาะอาการเจ็บของโฟฟาน่า กับฟอร์มขึ้นๆ ลงๆ ของบาเดียชิล ทำให้แฟนบอลยังแอบกลุ้ม
มาเรสก้าต้องรีบหาวิธีเติม “ความนิ่ง” ให้แผงหลัง ทั้งการวางไลน์ การยืนตำแหน่ง และการสื่อสารเวลาโดนบีบเร็ว ๆ ต้องแม่นกว่านี้! ถ้าแนวรับไม่อัปเกรด เกมใหญ่มีสิทธิ์โดนยิงกลับบ้านบ่อยแน่นอน ถึงเวลาแล้วที่จะมีผู้นำใหม่ในแดนหลัง
แท็คติกของมาเรสก้าเน้นการครองเกมแบบเป๊ะ ๆ สั่งเพรสสูง เซ็ตบอลจากหลัง เติมฟูลแบ็กเข้ากลางตามสูตรบอลยุคใหม่ แต่มาเรสก้ามีลูกเล่นเฉพาะตัวที่เน้นจังหวะพลิกเกมไวและการวางบอลทะลุช่องสุดคม
ระบบ 4-3-3 หรือ 4-2-3-1 จะได้เห็นแน่ ๆ โดยมีแกนกลางอย่าง ไกเซโด้, เอ็นโซ่, ปาเมอร์ [5] ขับเคลื่อนบอลไปข้างหน้าแบบมีไอเดียเต็มสูบ
คำถามคือ นักเตะปรับจูนได้ทันไหม? เพราะถ้าไม่เข้าใจบทบาท ก็มีสิทธิ์สะดุดเองได้เหมือนฤดูกาลก่อน!
ยุคใหม่ของเชลซีบอกลาการทุ่มแบบไร้ทิศทาง กลายเป็นทีมที่เลือกซื้อเฉพาะที่ใช่และมีแผนรองรับ เช่น การซื้อดาวรุ่งแล้วยืมไปปั้นให้กล้ามก่อนเอากลับมาใช้จริง
เคนดรี้ ปาเอซ หรือ ดาริโอ เอสซูโก้ คือผลผลิตจากกลยุทธ์นี้ เหมือนลงทุนปลูกต้นไม้รอเก็บผลระยะยาว ไม่ต้องรีบ แต่ผลตอบแทนโคตรคุ้ม! เชลซี กำลังกลายเป็นทีมที่ฉลาดและยั่งยืน พร้อมยืนระยะในยุค FFP แบบไม่หวั่นไหว [6]
ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก เสียงเชียร์ “Come on Chelsea!” ยังดังกระหึ่มเสมอ โดยเฉพาะในเอเชียที่แฟนบอลเหนียวแน่นสุดๆ ไทย อินโดฯ อินเดีย พร้อมเทใจให้ทีมนี้แบบไม่มีเงื่อนไข
การกลับสู่แชมเปียนส์ ลีกจึงเหมือนการส่งเทียบเชิญให้แฟนทั่วโลกกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง และเชลซีก็ไม่พลาดที่จะขยายแคมเปญเด็ดๆ แบบจัดเต็ม เสียงเชียร์ไม่ใช่แค่แรงใจ แต่มันคือพลังขับเคลื่อนให้ทีมนี้เดินหน้าสู่ความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่
ฤดูกาลนี้คือช่วงเวลาทองสำหรับแฟนบอลหน้าใหม่ที่กำลังจะตกหลุมรักเชลซี! โดยเฉพาะชาว Gen Z ที่เติบโตมากับ TikTok, YouTube Shorts และ Reels แค่เสื้อแข่งออกใหม่ก็พร้อมแชร์สนั่น เพราะเชลซีไม่ใช่แค่ทีมฟุตบอล แต่คือไลฟ์สไตล์ที่ดูเท่และทันสมัย
สโมสรเองก็รู้ดีว่าหัวใจของแฟนรุ่นใหม่เต้นแรงแค่ไหน จึงจัดเต็มกลยุทธ์สื่อสารแบบอินเทอร์แอคทีฟ ทั้งเบื้องหลังซ้อมสด เกมชาเลนจ์ใน IG และบทสัมภาษณ์สั้นสุดขำของนักเตะ ทำให้แฟนบอลหน้าใหม่รู้สึกเหมือนได้สนิทกับทีมตั้งแต่วันแรก
ใครที่เริ่มเชียร์เชลซีในปีนี้ บอกเลยว่าโชคดีสุด ๆ เพราะคุณกำลังจะได้เห็นการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัย ได้ลุ้นกับนักเตะเลือดใหม่ และได้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจฟื้นคืนความยิ่งใหญ่แบบติดขอบจอ สนามไหนไม่รู้ แต่หัวใจอยู่ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์แน่นอน
เชลซี ปี2025/26 คือปีแห่งความกล้า ปีแห่งการเปลี่ยนผ่าน และปีแห่งพลังความหวัง ไม่ใช่ทุกอย่างจะสมบูรณ์ในทันที แต่นี่แหละคือเส้นทางของทีมที่ต้องการกลับมายืนในจุดสูงสุดอีกครั้ง และอาจเร็วกว่าที่ทุกคนคิด เพราะนี่คือฤดูกาลที่เสียงคำรามของสิงห์บลูส์จะดังกึกก้องไปทั่วทุกสนาม
เชลซีไม่เพียงแค่พร้อมจะกลับมาแต่พวกเขาจะกลับมาเพื่อเป็น “แชมป์” เท่านั้น! เชลซี คือปีแห่งความกล้า ปีแห่งการเปลี่ยนผ่าน และปีแห่งพลังความหวัง ไม่ใช่ทุกอย่างจะสมบูรณ์ในทันที แต่นี่แหละคือเส้นทางของทีมที่ต้องการกลับมายืนในจุดสูงสุดอีกครั้ง และอาจเร็วกว่าที่ทุกคนคิด
น้องหอยขอโชว์ในรายการชิงแชมป์ สโมสรโลกหน่อย
ดีแลปจะรอดมั้ยนะ
พาลเมอร์ ปีหน้าจะแสดงร่างจริงแล้ว
นัดเตะมีเยอะนะ ทำให้ใช้เวลาหาตัวจริงนาน กว่าจะดีก็เกือบจบปีละ แต่ปีหน้าได้ลุ้นยาวๆแน่
ปีที่ผ่านมากลุ่มๆดอนๆ ปีหน้านี้แหละเชลซีของแทร่จะผงาดฟ้า