
เกลียดตัวเอง แพ้พนัน วัยรุ่นจำนวนไม่น้อยที่หลงเข้าไปในโลกของการพนัน มักไม่ได้รับผลกระทบแค่เรื่องเงิน แต่ยังรวมถึงบาดแผลทางใจที่มองไม่เห็น โดยเฉพาะความรู้สึกผิดต่อตัวเองเมื่อแพ้ซ้ำๆ จนเริ่มตั้งคำถามกับคุณค่าในชีวิต หลายคนรู้สึกว่าตัวเองโง่ อ่อนแอ หรือเป็นภาระ และเลือกที่จะไม่บอกใครถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
เมื่อไม่มีใครเข้าใจ ความผิดหวังก็กลายเป็นความเกลียดตัวเองอย่างเงียบๆ บางคนเริ่มตีความความล้มเหลวจากการพนันว่าเป็นสิ่งที่สมควรได้รับ กลายเป็นวงจรความรู้สึกผิดที่ทำให้ยิ่งอยาก เอาคืน ด้วยการเล่นต่อ จนติดหนักขึ้นโดยไม่รู้ตัว
บาดแผลภายในนี้มักไม่ได้รับการเยียวยา เพราะสังคมยังมองว่าการเล่นพนันเป็นแค่เรื่องของนิสัยไม่ดี ทั้งที่ในความจริง มันเกี่ยวพันกับสภาพจิตใจที่กำลังอ่อนแออย่างรุนแรง โดยเฉพาะในวัยที่กำลังสับสนและแสวงหาการยอมรับ
เมื่อวัยรุ่นเผชิญกับความล้มเหลวจากการพนัน คนรอบข้างมักใช้คำตำหนิ เช่น ไม่น่าหลงกลเลย หรือ ก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่ามันโกง คำพูดเหล่านี้ยิ่งตอกย้ำให้พวกเขารู้สึกว่า นี่คือความผิดของฉันคนเดียว จึงเลือกเก็บเงียบไว้ ไม่กล้าขอความช่วยเหลือ
หลายคนพยายามฝืนยิ้ม ทำเหมือนทุกอย่างปกติ ทั้งที่ภายในเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและความเครียดสะสม เพราะกลัวว่าจะถูกดุด่า หรือไม่ก็ถูกมองว่า อ่อนแอ หรือ น่าสมเพช สิ่งเหล่านี้ทำให้วัยรุ่นรู้สึกโดดเดี่ยวในปัญหาของตัวเองมากยิ่งขึ้น
การไม่มีพื้นที่ปลอดภัยสำหรับพูดคุยเรื่องนี้ ทำให้ปัญหาก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ และอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า การทำร้ายตัวเอง หรือแม้แต่ความคิดฆ่าตัวตายโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า การสื่อสารจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องสร้างก่อนจะสายเกินไป
ความรู้สึกผิดจากการพนันไม่ใช่แค่เรื่องเสียเงิน แต่มักมีน้ำหนักของการ รู้สึกว่าทำลายความหวังของครอบครัว หรือ ไม่เป็นคนดีพอ โดยเฉพาะเมื่อมีคนในบ้านฝากความหวังไว้ อย่างเช่น ค่าเทอม เงินเก็บ หรือความภูมิใจในตัวลูก
เมื่อวัยรุ่นรู้สึกว่าตัวเองทำผิดอย่างร้ายแรง พวกเขามักจะลงโทษตัวเองโดยไม่รู้ตัว อาทิเช่น ไม่ยอมกินข้าว นอนน้อย ไม่ไปเรียน หรือพาตัวเองเข้าไปอยู่ในวงการพนันอีกครั้ง เพื่อหวังว่า ถ้าชนะ จะได้แก้ตัว ซึ่งยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลง
วงจรเหล่านี้ฝังแน่นจนกลายเป็นพฤติกรรมประจำวันโดยไม่รู้ตัว ทำให้การออกจากวังวนนี้เป็นเรื่องยากมากหากไม่มีคนเข้ามาเห็นและยื่นมือช่วยเหลือก่อนที่ปัญหาจะลุกลามไปไกลเกินแก้ (11 กุมภาพันธ์ 2020) [1]
วัยรุ่นที่ติดพนันแล้วแพ้ซ้ำๆ มักเปลี่ยนจาก ฉันทำพลาด กลายเป็น ฉันมันล้มเหลว พวกเขาเริ่มมองความผิดพลาดเป็นตัวตนของตัวเอง ไม่ใช่แค่สิ่งที่เกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราว ความเชื่อเหล่านี้ทำลายความมั่นใจในตัวเองอย่างช้าๆ
เมื่อความรู้สึกผิดกลายเป็นนิสัย คนๆ นั้นอาจเริ่มลดคุณค่าตัวเองในทุกเรื่อง ไม่กล้าลองทำสิ่งใหม่ๆ ไม่กล้าฝัน หรือไม่กล้าสร้างความสัมพันธ์กับใคร เพราะกลัวว่าตัวเองจะพังทุกอย่างอีกครั้ง
การหลุดออกจากกรอบคิดนี้ ต้องเริ่มจากการเข้าใจว่า ความผิดพลาดไม่ได้หมายความว่าเราแย่ และเรายังมีคุณค่าในตัวเองอยู่เสมอ แม้จะเคยเลือกผิด หรือเคยล้มมาก็ตาม (8 พฤษภาคม 2020) [2]
หลายครั้ง วัยรุ่นไม่ได้ต้องการคำแนะนำ แต่แค่ต้องการ คนที่รับฟังโดยไม่ตัดสิน การมีใครสักคนที่อยู่ตรงนั้น ไม่ใช่เพื่อแก้ปัญหา แต่เพื่ออยู่เป็นเพื่อนในวันที่แย่ที่สุด ก็เพียงพอแล้วที่จะช่วยให้พวกเขาไม่รู้สึกโดดเดี่ยวจนเกินไป
การเปิดพื้นที่ปลอดภัย เช่น การพูดคุยในครอบครัว หรือมีนักจิตวิทยาในโรงเรียนที่เข้าถึงง่าย ช่วยให้วัยรุ่นกล้าพูดถึงสิ่งที่แบกอยู่ ซึ่งเป็นก้าวแรกของ การเยียวยาอย่างแท้จริง
อย่ารอให้วัยรุ่นร้องขอความช่วยเหลือ เพราะหลายครั้งพวกเขาไม่กล้าพูด หากเราเป็นฝ่ายเริ่มต้นด้วยความเข้าใจ อาจช่วยให้พวกเขาเห็นคุณค่าในตัวเองอีกครั้ง และกล้าที่จะเดินออกจากวังวนแห่งความผิด (5 กรกฎาคม 2024) [3]
พ่อแม่ไม่ต้องเก่ง แค่เปิดใจฟังก็พอ หลายครั้งที่วัยรุ่นติดพนัน ไม่ได้ต้องการคำแนะนำที่ซับซ้อน แค่ต้องการใครสักคนที่ “ฟัง” โดยไม่ด่วนตัดสิน พ่อแม่หรือผู้ปกครองอาจรู้สึกไม่เข้าใจโลกของเกมหรือการพนันออนไลน์ แต่การเปิดใจ รับฟังโดยไม่ชี้หน้า หรือดุด่าทันที เป็นจุดเริ่มต้นของการสื่อสารที่ดี
การพูดคุยแบบใจเย็น เปิดโอกาสให้ลูกได้เล่าความรู้สึกในใจ คือจุดเปลี่ยนที่อาจป้องกันหรือนำพาให้พวกเขาห่างจากเส้นทางอันตรายนี้ (30 พฤศจิกายน 2022) [4]
ที่ปรึกษาไม่ต้องสมบูรณ์แบบ แค่จริงใจก็มีคุณค่า วัยรุ่นที่ตกอยู่ในปัญหาการพนันหลายคนไม่กล้าหันหน้าไปหาครอบครัว เพราะกลัวผิดหวังหรือถูกตำหนิ แต่หากมี ที่ปรึกษา ที่พร้อมรับฟัง เข้าใจ และไม่พยายามเป็นผู้ตัดสิน ก็อาจกลายเป็นแสงสว่างในช่วงเวลามืดมนของชีวิตเด็กคนนั้นได้
ในช่วงกลางปี 2025 หน่วยงานด้านสุขภาพจิตหลายแห่งในประเทศไทย เช่นกรมสุขภาพจิต และมูลนิธิเด็ก กำลังออกแคมเปญเกี่ยวกับการ ฟังเสียงวัยรุ่น โดยเน้นเรื่องผลกระทบจากการพนันที่มองไม่เห็น ตัวอย่างเช่น ความรู้สึกผิด การเกลียดตัวเอง และภาวะซึมเศร้า
ผลสำรวจล่าสุดของสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพแห่งชาติ (สช.) เผยว่า วัยรุ่นที่เคยเล่นพนันมีโอกาสสูงถึง 2.5 เท่า ที่จะรู้สึกว่าตัวเอง ไร้ค่า หรือ ไม่มีทางทำอะไรดีได้ เมื่อเทียบกับกลุ่มวัยรุ่นทั่วไป (5 สิงหาคม 2025) [5]
แคมเปญเหล่านี้เป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนมุมมองของสังคม และเตือนให้ผู้ใหญ่หยุดมองปัญหานี้แบบผิวเผิน เพราะความเกลียดตัวเองจากการพนันนั้นเป็นเรื่องจริง และเกิดขึ้นใกล้กว่าที่เราคิด
ความเงียบคือศัตรูของการเยียวยา ยิ่งวัยรุ่นรู้สึกผิดกับตัวเองมากเท่าไร โอกาสที่จะขอความช่วยเหลือก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น การมองเห็นความเจ็บปวดของเขา และอยู่ข้างๆ อย่างเข้าใจ อาจช่วยให้เขากลับมารักตัวเองได้อีกครั้ง
หากคุณรู้จักใครที่กำลังเงียบผิดปกติ หรือมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม ลองเข้าไปถามด้วยความห่วงใย ไม่ต้องสอน ไม่ต้องตำหนิ แค่ฟังด้วยหัวใจ อาจเป็นสิ่งที่ช่วยเขาได้มากกว่าที่คิด
บอกเขาว่า คุณไม่ได้ไร้ค่า และ คุณยังมีคนที่อยู่ตรงนี้เสมอ เพราะแค่ประโยคเดียวจากคนที่เชื่อใจ อาจเปลี่ยนทิศทางชีวิตของวัยรุ่นได้ทั้งชีวิต
คนเสียพนันมักจะจมปลัก และหาทางออกไม่ได้ ต้องให้คนรอบข้างคอยช่วยเหลือ ซึ่งสุดท้ายจะหลุดพ้นได้หรือไม่ อยู่ที่เจ้าตัวเองเพียงคนเดียวเท่านั้น
หลายๆคนมักชอบหาทางออกโดยการไม่พูด แล้วสุดท้ายก็ไปบอกในวันที่มันสายเกินไป จากเรื่องราวที่ควรแก้ได้เนิ่นๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะไม่คุยตั้งแต่แรก