
ใครจะไปคิดว่าแค่ซีซั่นแรกของ อาร์เน่ สลอต [1] จะพา ลิเวอร์พูล กลับมาทวงแชมป์พรีเมียร์ลีกได้แบบแสบๆ คันๆ ขนาดนี้ หลังการอำลาของ เจอร์เก้น คล็อปป์ แฟนบอลบางส่วนยังใจหวิว แต่สลอตก็จัดให้ชุดใหญ่ไฟกะพริบ พาทีมคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 20 ทาบสถิติคู่แค้น แมนฯ ยูไนเต็ด แบบโคตรสะใจ
นี่ไม่ใช่แค่การชนะในสนามเท่านั้น แต่มันคือการชนะใจแฟนบอลทั้งโลก เพราะสลอตไม่ได้แค่คุมทีม แต่เขาเปลี่ยนวิธีคิด สร้างระบบใหม่ และยังคงเอกลักษณ์ “บอลบุกบ้าดีเดือด” เอาไว้ได้ครบ จนหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “หงส์แดงคนใหม่ มาแรงไม่แพ้ยุคคล็อปป์เลย!”
ฟอร์มของ ลิเวอร์พูล ฤดูกาลนี้ต้องใช้คำว่า “ติดเครื่องไว ไม่รอแล้วนะ” เพราะพวกเขาออกสตาร์ทได้ดี และเก็บแต้มต่อเนื่องชนิดที่ทีมใหญ่เจอก็มีหนาว โม ซาลาห์ ยังรักษามาตรฐานระดับเทพไว้ได้แบบไม่สะดุด ยิง 29 จ่าย 18 คือบ้าไปแล้ว! ด้าน หลุยส์ ดิอาซ และ กัคโป ก็เติมเกมรุกได้มันส์สะใจ เหมือนเครื่องปรุงรสแซ่บ ๆ ที่ลงตัวทุกจังหวะ
เกมเพรสซิ่งของทีมก็ค่อยๆ ถูกจูนให้สมดุลขึ้น ไม่วิ่งมั่วแต่เน้นประสิทธิภาพ ทำให้พวกเขารับ-รุกได้ลื่นขึ้นแบบเห็นชัด ลิเวอร์พูลปิดฤดูกาลด้วย 84 แต้ม ชนะ 25 นัด เสียแค่ 41 ประตู และยิงไปถึง 86 ลูก เป็นอีกหนึ่งซีซั่นที่แฟนหงส์ดูแล้วรู้สึกว่า ใจมาเต็ม [2]
ลิเวอร์พูล ยังคงต้องเรียนรู้ในเวทียุโรป เมื่อพวกเขาตกรอบ 16 ทีมในแชมเปียนส์ลีกด้วยน้ำมือของ PSG ที่เล่นได้เฉียบขาดกว่า ส่วนคาราบาว คัพก็ไปได้ไกลถึงรอบชิงแต่จบแค่ “พระรอง” แบบเจ็บจี๊ด FA Cup [3] เองก็ลื่นไถลหลุดตั้งแต่รอบสี่
แต่แฟนหงส์จำนวนไม่น้อยกลับไม่รู้สึกเสียใจมาก เพราะปีนี้คือปีของการ “ตั้งหลัก” ไม่ใช่ “กวาดหมด” การเห็นทีมกลับมามีทิศทางชัดเจน เล่นสนุก และมีพลังงานบวก ก็เพียงพอที่จะทำให้อนาคตดูสดใสกว่าที่เคยเป็นในช่วงเปลี่ยนผ่าน
ปีนี้ไม่ได้มีแต่ตัวหลักที่เปรี้ยงปร้าง ดาวรุ่งในทีมชุดนี้ก็โชว์ของกันเพียบ โดยเฉพาะ โคเนอร์ แบรดลีย์ ที่ได้โอกาสในทีมชุดใหญ่และใช้มันได้อย่างคุ้มค่า เล่นดุดัน ขยัน และไม่กลัวใคร สมกับเป็นตัวแทนของเทรนต์ในอนาคต ขณะเดียวกัน ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ก็เล่นได้นิ่งขึ้น แข็งแรงขึ้น และกลายเป็นตัวเลือกสลับในแดนกลางที่น่าเชื่อถือ
นอกจากนั้นยังมีชื่ออย่าง สเตฟาน บายเซติช, เจมส์ แมคคอนเนลล์ และดาวรุ่งรายอื่น ๆ ที่ค่อย ๆ ถูกสอดแทรกในบอลถ้วย ถือเป็นการปูทางสู่อนาคตที่ไม่ต้องซื้อทุกตำแหน่ง แต่ใช้ของที่มีให้ดีที่สุด และนั่นคือแนวทางที่ลิเวอร์พูลกำลังทำได้ดีมาก ๆ ณ เวลานี้ [4]
ใครที่เคยบ่นว่าแอนฟิลด์เงียบไปในช่วงปลายยุคคล็อปป์ ปีนี้คงเปลี่ยนความคิดทันที เพราะเสียงเชียร์กลับมาดังกระหึ่ม เพลง “You’ll Never Walk Alone” ถูกตะโกนใส่ลมหนาวอย่างทรงพลัง และทุกเกมเหย้ากลายเป็นป้อมปราการสุดโหดที่ทีมเยือนต้องเหงื่อตก
บรรยากาศกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เพราะผลงานในสนามดึงพลังจากอัฒจันทร์ และพลังจากอัฒจันทร์ก็ดันผลงานในสนาม เป็นความ “คลิกกัน” ที่ทำให้ลิเวอร์พูลปีนี้ไม่ใช่แค่ทีมแชมป์ แต่เป็นทีมที่ “น่าดู” และ “น่าหลงรัก” อีกครั้งหนึ่ง
ลิเวอร์พูลเตรียมเสริมทัพแบบแม่นยำ ไม่ต้องซื้อล้น แต่ซื้อให้ตรง โดย 3 จุดที่เล็งไว้แบบเน้น ๆ คือ แบ็กขวา (ถ้าเทรนต์ย้าย), มิดฟิลด์ตัวคุมจังหวะ และเซ็นเตอร์แบ็กคุณภาพ ในตำแหน่งแบ็กขวา มีชื่อของ เจเรมี ฟริมปง จากเลเวอร์คูเซ่นเป็นตัวเต็งที่มีทั้งสปีดและความดุดัน
ด้านมิดฟิลด์ ซูบิเมนดี้ไปปืนใหญ่แล้ว ทำให้ชื่อของ เคเฟรน ตูราม และ ซ็องกาเร่ ถูกดันขึ้นมาแทน ส่วนตำแหน่งตัวรุก ลิเวอร์พูลกำลังพิจารณาดาวรุ่งอย่าง ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ และกองหน้าตัวเก่งอย่าง วิคตอร์ เกียวเคเรส [5] เพื่อมาเสริมให้แน่นขึ้น ตอบโจทย์ความแข็งแกร่งและการครองบอล
ตลาดรอบนี้ หงส์แดงไม่ได้แค่หาของดีเข้าทีม แต่ยังต้องตัดใจจากบางรายเพื่อรีเฟรชตัวเองให้แกร่งขึ้น เหมือนการจัดบ้านที่ต้องเคลียร์ของเก่าออกก่อนถึงจะวางของใหม่ได้ลงตัว โดยลิสต์เป้าหมายที่แฟนบอลอยากได้ก็มีหลายรายที่ชื่อคุ้นๆ และดูแล้ว “เหมาะ” กับแนวทางของสลอตแบบสุดๆ
ด้านนักเตะที่อาจต้องโบกมือบ๊ายบายก็มีให้เห็นบ้าง อย่างเช่น ดาร์วิน นูนเญซ [6] ที่ถึงแม้ใจสู้ ทุ่มเท แต่การจบสกอร์และฟอร์มที่ยังไม่คงที่อาจทำให้สโมสรต้องพิจารณา และ โจ โกเมซ ที่เล่นได้หลายตำแหน่งแต่ยังไม่สามารถยึดตัวหลักได้ชัดเจน ถ้าได้ราคาดี ก็อาจต้อง “ขายเพื่อซื้อ” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถ้าเพิ่งจะเริ่มเชียร์ลิเวอร์พูลในปี 2025 นี้ บอกเลยว่า “มาถูกทางแล้ว!” สิ่งแรกที่ควรทำคือทำความรู้จักนักเตะตัวหลักอย่าง ซาลาห์, ดิอาซ, กัคโป และตามติดกุนซือใหม่อย่างอาร์เน่ สลอตให้ดี เพราะนี่คือจุดศูนย์กลางของทุกแผนการเล่น จากนั้นติดตามนัดใหญ่ ๆ อย่างแดงเดือดและเกมแชมเปียนส์ลีก รับรองว่าคุณจะอินกับทีมนี้แบบถอนตัวไม่ขึ้นแน่นอน
ฤดูกาลนี้ลิเวอร์พูลไม่ได้แค่ได้แชมป์ แต่ได้ “หัวใจแฟนบอล” กลับมาด้วย แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงไม่ได้แย่เสมอไป ถ้ามันมาพร้อมวิสัยทัศน์และแผนการที่มั่นคง ปีแรกของสลอตอาจจะเรียกว่าประสบความสำเร็จเกินคาด และนั่นทำให้ปีต่อไปยิ่งน่าติดตาม
ปีหน้าจะมีอะไรเซอร์ไพรส์อีกไหม? จะป้องกันแชมป์ได้หรือเปล่า? จะลุยแชมเปียนส์ลีกไปไกลแค่ไหน? สิ่งหนึ่งที่แน่ใจได้เลยคือ “ลิเวอร์พูลกลับมาแล้ว” และพวกเขาไม่ได้มาเล่น ๆ อย่างแน่นอน
ขอสรุปแบบฟันธงเน้นๆกันไปเลยว่า ถ้าได้นักเตะและปรับทีมตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ลิเวอร์พูลทีมนี้ได้เป็น “แชมป์แน่” สำหรับในฤดูกาลหน้าที่จะมาถึง ด้วยพลังแรงเชียร์ของแฟนบอลที่ดีที่สุดในโลก
ต่อยอดความสำเร็จ สู้ๆๆๆ #YNWA
ฟลอเรียน เวียต นี่ตัวชอบเลยมาไวๆนะ
ตัวใหม่มีข่าวเพียบ ขอให้ได้ครบเลยน้า
ซาล่าห์ นึกว่าจะโรยราตามีอายุ สุดท้ายเจ๋งกว่าหลายๆปีที่ผ่านมาซะงั้น #ynwa
ลิเวอร์พูล มาในแบบที่ยอดเยี่ยม อย่างไม่น่าเชื่อในปีนี้