ลงทุนลวงตาในโลกเสี่ยง เงินจึงหมุนอยู่ในวงจรที่ยากจะถอนตัว

ลงทุนลวงตาในโลกเสี่ยง ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารเดินทางรวดเร็ว การลงทุนดูเหมือนเป็นหนทางสร้างกำไรรวดเร็ว แต่เบื้องหลังเต็มไปด้วยกลไกเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ พฤติกรรมเสี่ยงทางการเงินจึงไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการเล่นหุ้นหรือคริปโท แต่ยังรวมถึงรูปแบบการลงทุนที่ลวงตา อย่างเช่น แชร์ลูกโซ่ และ การปั่นเหรียญดิจิทัล

ผู้ลงทุนจำนวนไม่น้อย เข้าสู่โลกการลงทุนลวงตา ด้วยความหวังว่าจะสร้างรายได้เสริม แต่กลับต้องเผชิญกับความผันผวนที่สูงเกินกว่าจะคาดการณ์ได้ การใช้ข้อมูลเพียงผิวเผินจากโซเชียลหรือคำแนะนำที่ไม่ได้ผ่านการวิเคราะห์เชิงลึก เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสียหาย

ยิ่งไปกว่านั้น ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลเปิดช่องให้การลงทุนลวงตาแทรกซึมได้ง่ายขึ้น ตั้งแต่การเปิดแพลตฟอร์มเทรดปลอมไปจนถึงการสร้างโทเคนไร้ค่าแล้วโปรโมทผ่านสื่อสังคมออนไลน์ การเสพติดกำไรระยะสั้นทำให้ผู้คนมองข้ามความเสี่ยงที่แท้จริง และเมื่อผู้คนจำนวนมากตกอยู่ในวงจรนี้ ผลกระทบย่อมลามถึงครอบครัวและชุมชน

สื่อสังคมเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของพฤติกรรมเสี่ยงทางการเงิน แพลตฟอร์มต่างๆ เต็มไปด้วยคอนเทนต์เชิญชวนลงทุนที่ใช้กลยุทธ์ทางจิตวิทยา อาทิเช่น การสร้าง FOMO (กลัวพลาดโอกาส) การอ้างอิงกำไรสูงเกินจริง และการปลอมรีวิวจากผู้ใช้งาน สภาพแวดล้อมนี้ทำให้การลงทุนลวงตาดูเหมือนเป็นเรื่องปกติและปลอดภัย

นอกจากนี้ อัลกอริทึมของแพลตฟอร์มยังช่วยกระจายเนื้อหาที่กระตุ้นอารมณ์ ตัวอย่างเช่น เรื่องราวคนรวยเร็วจากการลงทุนหรือ คริปโท ทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่า “ใครๆ ก็ทำได้” จนตัดสินใจลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง การเสพติดข้อมูลและการเชื่อในสิ่งที่ถูกแชร์ซ้ำๆ ทำให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างเงียบๆ

ผลลัพธ์คือวงจรที่ยากจะหยุด เพราะทุกครั้งที่มีคนตกเป็นเหยื่อและสูญเงิน จะมีคนใหม่เข้ามาแทนที่อย่างรวดเร็ว เศรษฐกิจการเสพติดในรูปแบบนี้จึงเติบโตต่อเนื่อง และสร้างความเสียหายทั้งในระดับบุคคลและสังคม (22 มิถุนายน 2025) [2]