ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เมื่อคุณต้องการความช่วยเหลือ

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

การยอมรับว่าตัวเองต้องการความช่วยเหลือ คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หลายคนที่ติดการพนันมักเผชิญกับความรู้สึกโดดเดี่ยว กังวล และไม่กล้าขอความช่วยเหลือจากใคร แต่ในความเป็นจริง จุดสำคัญคือคุณไม่จำเป็นต้องสู้คนเดียว

เมื่อเริ่มต้น ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ คุณจะได้รับการประเมินสภาพปัญหาอย่างตรงจุด พวกเขาไม่ได้มีหน้าที่ตัดสินคุณ แต่มีหน้าที่ฟัง เข้าใจ และให้แนวทางที่ใช้ได้จริง หลายครั้งที่เราอาจรู้สึกว่าการติดพนันเป็นปัญหาของจิตใจที่อ่อนแอ แต่แท้จริงแล้วมันคือปัญหาทางพฤติกรรมที่มีต้นตอ และสามารถรักษาได้ด้วยความรู้และทักษะที่ถูกต้อง

ในที่สุด การปรึกษาไม่ใช่การยอมแพ้ แต่มันคือการกล้ายอมรับว่าเราอยากเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้น และต้องการเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลงนั้น อย่าลืมว่า แม้จะเริ่มต้นเพียงลำพัง แต่คุณไม่จำเป็นต้องเดินไปตลอดทางคนเดียว

เลือกผู้เชี่ยวชาญแบบไหนถึงจะเหมาะ อย่าเลือกแค่เพราะใกล้บ้าน

หลายคนเมื่อคิดจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องการพนัน มักเริ่มต้นจากการหาข้อมูลใกล้ตัว อย่างเช่น คลินิกในละแวกบ้าน หรือโรงพยาบาลที่เคยไปตรวจ แต่ความใกล้บ้านไม่ได้แปลว่าเหมาะกับตัวคุณที่สุด การเลือกผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจปัญหาเฉพาะด้านและมีประสบการณ์ตรงกับผู้ที่เคยติดการพนัน จะช่วยให้คุณได้รับการดูแลที่ตรงจุดมากกว่า

นอกจากนี้ยังควรคำนึงถึงแนวทางของผู้ให้คำปรึกษาแต่ละคน เช่น บางคนเน้นแนวบำบัดพฤติกรรม บางคนเน้นการพูดคุยปลอบใจ หรือบางรายอาจมีการใช้ยาเข้าร่วมด้วย สิ่งเหล่านี้ควรถามให้ชัดเจนก่อนเริ่ม เพื่อให้คุณรู้สึกสบายใจ และพร้อมเปิดใจตลอดการบำบัด [1]

สุดท้ายคือเคมีต้องตรงกัน บางครั้งผู้เชี่ยวชาญอาจเก่งมาก แต่คุณไม่รู้สึกปลอดภัยที่จะพูดคุยด้วย แบบนั้นก็ไม่จำเป็นต้องฝืน ลองหาคนที่คุณรู้สึกไว้ใจจริงๆ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ จะทำให้การบำบัดได้ผลในระยะยาว

ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา ช่วยทำความเข้าใจรากของพฤติกรรม

นักจิตวิทยาจะช่วยคุณมองลึกลงไปถึงสิ่งที่ผลักดันให้คุณเล่นพนัน ตัวอย่างเช่น ความเครียด ความเหงา หรือแรงกดดันในชีวิต พวกเขามีเครื่องมือในการวิเคราะห์จิตใจ และสามารถวางแผนการบำบัดที่เหมาะสมกับคุณโดยเฉพาะ ไม่ใช่แค่พูดให้สบายใจ แต่ช่วยเปลี่ยนแปลงความคิดและพฤติกรรมที่เป็นรากของปัญหา

หากคุณรู้สึกว่าความอยากเล่นพนันมักมาในช่วงที่เครียด เหงา หรือหมดหวัง นั่นแหละคือตัวอย่างของสิ่งที่นักจิตวิทยาจะช่วยเจาะลึกและหาทางแก้ได้ พวกเขาไม่ตัดสิน ไม่ตำหนิ แต่ใช้ความเข้าใจทางวิชาการเพื่อเปลี่ยนแปลงคุณอย่างยั่งยืน

การเข้าพบอาจเริ่มจากแค่พูดคุย ไม่จำเป็นต้องเล่าเรื่องทั้งหมดในครั้งแรก การเปิดใจค่อยๆ ทีละนิด เป็นจุดเริ่มต้นของการรักษาที่ดีที่สุด และคุณอาจได้ค้นพบว่าการเข้าใจตัวเอง เป็นขั้นตอนแรกสู่การหลุดพ้นจากวงจรเดิมๆ [2]

นักบำบัดพฤติกรรม เน้นฝึกฝนและควบคุมตัวเองในชีวิตจริง

ถ้าคุณรู้ตัวว่ารู้ว่าต้องเลิก แต่ทำไม่ได้ นักบำบัดพฤติกรรมอาจเป็นคำตอบ พวกเขาใช้เทคนิค CBT (Cognitive Behavioral Therapy) ซึ่งเน้นเปลี่ยนพฤติกรรมจากการฝึกคิดใหม่และลงมือทำจริง

การบำบัดแนวนี้อาจมีการตั้งเป้าหมายระยะสั้น อาทิ ลดเวลาที่เล่นพนันลงวันละ 30 นาที แล้วค่อยๆ ตัดออก หรือใช้วิธีเปลี่ยนพฤติกรรมตอบสนอง อย่างเช่น เวลาคิดจะเล่นพนันให้เปลี่ยนเป็นออกไปเดินเร็วๆ 10 นาที สิ่งเหล่านี้ต้องฝึก แต่มีผลจริง

สิ่งสำคัญคือ นักบำบัดจะทำงานร่วมกับคุณแบบทีม ไม่ใช่ผู้สั่งการ คุณจะได้ลองผิด ลองถูก ปรับตัวไปด้วยกันอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการลงมือแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม [3]

ช่องทางเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญ ไม่จำเป็นต้องรอให้พังถึงที่สุด

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

ปัจจุบันการเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญง่ายขึ้นมาก มีทั้งสายด่วนปรึกษาเบื้องต้น คลินิกเฉพาะทาง และการปรึกษาแบบออนไลน์ เหมาะกับคนที่ยังไม่พร้อมเดินทาง หรือรู้สึกไม่กล้าเปิดเผยตัวเองในช่วงแรก การเริ่มต้นเล็กๆ ด้วยการพูดคุยผ่านโทรศัพท์หรือหน้าจอ อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยให้คุณค่อยๆ เปิดใจได้ง่ายขึ้น

อย่ารอให้ชีวิตพังถึงขีดสุดก่อนจะขอความช่วยเหลือ เพราะยิ่งเริ่มเร็วยิ่งมีโอกาสแก้ไขได้ไวขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดผลกระทบที่อาจลุกลามไปถึงครอบครัว การงาน หรือสุขภาพจิตในระยะยาว

ลองค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์หรือเพจของผู้เชี่ยวชาญ อ่านรีวิว หรือสอบถามจากคนที่เคยใช้บริการก่อนหน้า จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และมั่นใจในการเริ่มต้นกระบวนการรักษาอย่างเหมาะสม

สายด่วนและคลินิกบำบัด เริ่มต้นง่ายไม่ต้องกลัว ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

หลายคนไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นที่ไหน จริงๆ แล้วมีสายด่วนช่วยเหลือ เช่น สายด่วนสุขภาพจิต 1323 หรือเว็บไซต์หน่วยงานอย่างกรมสุขภาพจิต ที่ให้ข้อมูลฟรีและไม่ตัดสินใจแทนคุณ คุณสามารถโทรปรึกษาเบื้องต้นก่อนที่จะนัดหมายเจอตัวจริง

การเริ่มต้นอาจใช้เวลาสั้นๆ แค่ 5-10 นาที เพื่อบอกปัญหาคร่าวๆ และขอคำแนะนำเบื้องต้นว่าควรไปต่อทางไหนดี ถือเป็นจุดเริ่มที่ดีสำหรับคนที่ยังไม่พร้อมจะเจอตัวเป็นๆ แต่ต้องการความช่วยเหลือด่วน [4]

นอกจากนี้ยังมีคลินิกเฉพาะทาง หรือโรงพยาบาลรัฐที่มีศูนย์บำบัดพฤติกรรมเสพติด ซึ่งมีทั้งแบบนัดหมายล่วงหน้า หรือ walk-in ได้เลย อย่ากลัวที่จะเริ่ม เพราะคนที่คุณไปเจอ ล้วนเคยเจอผู้ป่วยมาแล้วนับร้อย นับพัน

ปรึกษาออนไลน์ ปลอดภัย เป็นส่วนตัว และเริ่มต้นได้ทันที

ยุคนี้คุณไม่จำเป็นต้องเดินเข้าคลินิกถึงจะได้รับการช่วยเหลือ มีนักจิตวิทยาและนักบำบัดที่เปิดให้ปรึกษาออนไลน์ผ่าน Zoom หรือแอปเฉพาะทาง อย่าง Ooca, Seekster หรือ BetterHelp ทำให้คุณสามารถเริ่มต้นจากที่บ้านได้ทันที [4]

ความเป็นส่วนตัวคือจุดเด่น คุณไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครเห็น ไม่ต้องเผชิญหน้ากับใครถ้ายังไม่พร้อม และที่สำคัญคือสามารถเลือกเวลาและผู้ให้บริการที่ตรงกับสไตล์ของคุณที่สุด

แม้จะเป็นการปรึกษาผ่านจอ แต่หลายคนกลับพบว่ากล้าพูดและเปิดใจมากกว่าการเจอหน้ากันจริงๆ หากคุณยังลังเล การลองปรึกษาออนไลน์สั้นๆ ครั้งแรก อาจเป็นประตูบานแรกที่เปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดก็ได้

รับมือกับอารมณ์หลังจากปรึกษา ไม่ใช่ทุกคนจะรู้สึกดีในทันที

การเปิดใจคุยกับผู้เชี่ยวชาญเป็นก้าวใหญ่ที่ต้องใช้ความกล้า แต่หลังจากนั้น หลายคนกลับรู้สึกแปลกๆ เหมือนมีพายุอารมณ์เข้ามากะทันหัน เช่น รู้สึกโล่ง แต่ก็รู้สึกอาย เศร้า หรือรู้สึกว่าตัวเองแย่ลงกว่าเดิม ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องปกติ และไม่ได้หมายความว่าคุณทำผิด

การปรึกษาเป็นเหมือนการเปิดแผลที่เราเคยซ่อนไว้มานาน พอเปิดออกมาอาจแสบบ้าง เจ็บบ้าง แต่การรักษาจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น การเข้าใจว่าความรู้สึกแย่ในช่วงแรกเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการฟื้นฟู จะช่วยให้คุณไม่ท้อกลางทาง

ถ้าคุณรู้สึกมากเกินรับไหว ควรแจ้งกับผู้ให้คำปรึกษาโดยตรง เพื่อให้เขาปรับแนวทางที่เหมาะกับคุณมากขึ้น และอย่าลืมให้เวลากับตัวเอง เพราะไม่มีใครรักษาใจได้ภายในวันเดียว

ความรู้สึกย้อนแย้ง ทั้งโล่ง ทั้งเจ็บ ทั้งสับสน กับการ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

หลังจากคุยกับผู้เชี่ยวชาญ หลายคนอาจรู้สึกโล่งใจที่ได้ระบาย แต่ขณะเดียวกันก็อาจมีอารมณ์ย้อนแย้ง อย่าง รู้สึกอาย เศร้า หรือคิดถึงสิ่งที่เสียไปในอดีต การยอมรับว่าตัวเองมีปัญหาไม่ใช่เรื่องง่าย และมันอาจกระตุ้นความรู้สึกหลากหลาย

สิ่งเหล่านี้คือเรื่องปกติ อย่าคิดว่ามันหมายถึงคุณไม่พร้อมจะเปลี่ยน ตรงกันข้าม มันคือสัญญาณว่าคุณกำลังเผชิญหน้ากับความจริง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง [5]

หากคุณรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นในช่วงแรก ให้แจ้งกับนักบำบัดได้เลย พวกเขาเข้าใจและจะช่วยปรับแนวทางให้เหมาะกับจังหวะของคุณ ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบไปสู่เป้าหมายโดยไม่ฟังหัวใจตัวเอง

ให้เวลากับกระบวนการ ทุกคนมีจังหวะการเปลี่ยนแปลงที่ต่างกัน

การเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ได้เกิดขึ้นภายในวันเดียว บางคนต้องใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะลดความอยากได้ บางคนต้องลองปรึกษาหลายครั้งกว่าจะคลิกกับแนวทางที่เหมาะกับตนเอง

อย่าท้อถ้ารู้สึกว่ายังเปลี่ยนไม่ได้ในทันที การพัฒนาเป็นกระบวนการที่ใช้เวลา และทุกก้าวเล็กๆ ก็คือชัยชนะในตัวมันเอง เปรียบเหมือนการฝึกกล้ามเนื้อใจ ต้องใช้เวลาฝึกซ้ำๆ เพื่อให้แข็งแรงขึ้น

จงเชื่อมั่นว่าแม้จะล้มบ้างในระหว่างทาง แต่ทุกการล้มคือบทเรียน และทุกการลุกคือพลังที่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งขั้น ไม่มีการพยายามครั้งใดที่สูญเปล่า ถ้าคุณไม่ยอมแพ้ [5]

สรุป ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ยอมรับความช่วยเหลือ กุญแจสำคัญของการหลุดพ้น

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ คือการเปิดประตูบานใหม่ในชีวิตคุณ มันคือการยอมรับว่าคุณไม่จำเป็นต้องแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยตัวเอง แม้บางครั้งอาจรู้สึกเจ็บหรือสับสน แต่ทุกขั้นตอนคือก้าวสู่การฟื้นฟูอย่างแท้จริง

ผู้เชี่ยวชาญไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบหรือมีคำตอบวิเศษ แต่คือคนที่เข้าใจ เข้าใจคุณ และเดินไปกับคุณในวันที่คุณหลงทาง เมื่อคุณเปิดใจ โลกจะเปิดโอกาสให้คุณเช่นกัน

อย่ารอให้ชีวิตถึงจุดตกต่ำที่สุดถึงจะยื่นมือขอความช่วยเหลือ เพราะความกล้าหาญที่สุด บางครั้ง คือการเอ่ยปากบอกว่า ช่วยด้วย

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง

แสดงความคิดเห็น