ครอบครัวคือพลังใจ รับมือกับคนใกล้ชิดที่ติดพนัน

ครอบครัวคือพลังใจ

ครอบครัวคือพลังใจ การมีคนใกล้ชิดที่ติดการพนันอาจเป็นเรื่องหนักหนาในชีวิตครอบครัว ความรู้สึกเจ็บปวด ผิดหวัง และโกรธเคืองอาจเข้ามาพร้อมกันแบบไม่ทันตั้งตัว หลายครั้งเรารู้สึกเหมือนกำลังต่อสู้กับอะไรที่มองไม่เห็น และไม่มีทางรู้ว่าจะช่วยคนที่เรารักได้อย่างไรโดยไม่ทำร้ายตัวเองไปพร้อมกัน

แต่ในความยากลำบากนั้น ครอบครัวสามารถเป็นพลังบวกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการฟื้นฟูคนที่ติดพนันได้ หากเราสามารถเข้าใจธรรมชาติของปัญหา รู้วิธีสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ และสร้างขอบเขตที่ชัดเจน การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงอาจเริ่มขึ้นจากบ้านหลังนี้เอง

ในวันนี้จะพาไปรู้จักกับแนวทางปฏิบัติที่ใช้ได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าใจตัวผู้ติดพนัน วิธีสื่อสารอย่างไม่ทำร้ายจิตใจ การวางลิมิตที่ปลอดภัย และการใช้เครื่องมือสนับสนุนจากภายนอก เพื่อให้คุณไม่ต้องเผชิญปัญหานี้ลำพัง

เข้าใจธรรมชาติของคนติดพนัน ไม่ใช่แค่คนไม่มีสติ

เมื่อคนในบ้านติดการพนัน สิ่งที่เราต้องเข้าใจก่อนคือ นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของพฤติกรรมไม่ดี แต่เป็นภาวะที่เกี่ยวข้องกับสมอง อารมณ์ และพฤติกรรมเชิงเสพติด ไม่ต่างจากสารเสพติดหลายประเภท ซึ่งทำให้การเลิกไม่ใช่แค่การตั้งใจ แต่ต้องการการเปลี่ยนแปลงจากหลายด้าน

ผู้ติดพนันมักอยู่ในสภาพจิตใจที่ซับซ้อน มีทั้งความรู้สึกผิด กลัว ถูกตำหนิ หรือรู้สึกไม่มีค่าพอจะกลับมาใช้ชีวิตปกติ หลายคนจึงเลือกที่จะปิดบัง โกหก หรือถลำลึกเข้าไปอีกเพราะไม่อยากเผชิญความจริง ครอบครัวคือพลังใจ การเข้าใจตรงนี้คือจุดเริ่มต้นของการช่วย ไม่ใช่การซ้ำเติม

ครอบครัวควรลดการตัดสิน เพิ่มการฟัง และใช้ความเข้าใจเป็นเครื่องมือหลัก อย่าเพิ่งคาดหวังผลลัพธ์ในทันที เพราะการฟื้นตัวคือกระบวนการที่ต้องใช้เวลา หากครอบครัวยืนข้างเขาอย่างมีขอบเขต คนติดพนันมีโอกาสสูงมากที่จะฟื้นคืนได้ [1]

ต้นเหตุลึกๆ มาจากอะไรบ้าง?

ปัญหาการพนันมักไม่ได้เกิดเพียงแค่เพราะความโลภ หรือชอบเสี่ยง อย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่มีต้นเหตุลึกๆ อย่างความเครียด ความรู้สึกโดดเดี่ยว หรือแม้กระทั่งภาวะซึมเศร้าที่ถูกกลบด้วยพฤติกรรมเสพติด ความรู้สึกแพ้ในชีวิตจริงทำให้การพนันกลายเป็นพื้นที่ชั่วคราวที่รู้สึกว่าชนะได้

บางคนเริ่มเล่นเพราะต้องการเงินด่วน บางคนแค่โดนเพื่อนชักชวน แต่เมื่อเจอกับกลไกรางวัลแบบสุ่มหรือความตื่นเต้นจากการลุ้น มันกลับกลายเป็นสิ่งเสพติดที่พาออกยากอย่างคาดไม่ถึง เพราะสมองเราถูกกระตุ้นให้ต้องการความตื่นเต้นซ้ำๆ

การเข้าใจสาเหตุพวกนี้ทำให้เรารับมือได้ดีขึ้น แทนที่จะตั้งคำถามว่าทำไมไม่เลิกสักที เราอาจถามใหม่ว่า อะไรทำให้เขาอยากกลับไปอีก คำถามแบบนี้จะพาเราไปสู่การเยียวยาที่ลึกและจริงกว่าเดิม

การหลุดพ้นไม่ใช่แค่เรื่องของแรงใจ ซึ่ง ครอบครัวคือพลังใจ ที่ดีมาก

แรงใจเป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้ผู้ติดพนันฟื้นตัวได้ แต่ไม่เพียงพอเสมอไป เพราะพฤติกรรมเสพติดต้องใช้มากกว่านั้น ทั้งการปรับสภาพแวดล้อม การได้รับแรงสนับสนุน และการมีทางเลือกอื่นที่ปลอดภัยและเติมเต็มชีวิตได้จริง

ครอบครัวจึงควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ไม่ตัดสิน แต่ก็ต้องชัดเจนว่าความช่วยเหลือนั้นมีขอบเขต มีเป้าหมายร่วมกัน และค่อยๆ สร้างระบบสนับสนุนรอบตัว เช่น พาไปพบผู้เชี่ยวชาญ ร่วมกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการพนัน และสร้างความหมายใหม่ในชีวิต

เมื่อครอบครัวช่วยวางรากฐานให้ชีวิตใหม่เป็นไปได้ คนที่เคยติดการพนันจะเริ่มเห็นว่า เขาไม่ได้อยู่คนเดียว และมีโอกาสกลับมาเป็นคนที่ดีกว่าเดิมได้จริง

วิธีสื่อสารกับคนใกล้ชิด พูดให้ถึงใจไม่ใช่แค่ตำหนิ

ครอบครัวคือพลังใจ

หนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยที่สุด คือการพูดคุยที่กลายเป็นการโต้เถียงหรือกล่าวโทษจนทำให้ผู้ติดพนันปิดใจ การสื่อสารในช่วงเวลาแบบนี้จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะคำพูดหนึ่งคำอาจมีอิทธิพลมหาศาลทั้งในแง่ลบและบวก

จุดเริ่มที่ดีที่สุดคือการฟัง ฟังอย่างไม่มีอคติ ไม่ขัด ไม่เร่งสรุป และไม่ด่วนตัดสิน เปิดพื้นที่ให้ผู้ติดพนันได้พูดในสิ่งที่เขาอยากระบาย อาจจะไม่ได้เห็นผลทันที แต่การฟังอย่างลึกซึ้งจะค่อยๆ สร้างความไว้วางใจ และเป็นจุดเริ่มของการเปิดใจพูดคุยอย่างแท้จริง

คำพูดเชิงห่วงใย เช่น ฉันอยากให้เธอมีชีวิตที่ดี หรือ ฉันอยู่ตรงนี้ถ้าเธออยากเปลี่ยนแปลง มักจะได้ผลดีกว่าการพูดว่า เธอทำให้ครอบครัวพัง ความเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นจากคำพูดเล็กๆ ที่มีน้ำหนักในใจ [2]

ฟังให้มากกว่าพูด อย่ากลัวที่จะเข้าใจ

คนในครอบครัวมักรู้สึกเจ็บ จนเผลอพูดสิ่งที่ออกมาจากความโกรธมากกว่าความเข้าใจ การฝึกฟังโดยไม่แทรก ไม่แสดงอารมณ์เกินเหตุ จะทำให้ผู้ติดพนันรู้สึกว่าตนเองยังมีคุณค่า และมีคนพร้อมรับฟังโดยไม่ต้องกลัวว่าจะโดนด่า

หลายคนไม่อยากฟังเพราะกลัวว่าจะยอมรับผิด แต่อันที่จริงแล้ว การฟังไม่ได้แปลว่าเห็นด้วยเสมอ มันคือการยอมให้ความสัมพันธ์ได้หายใจอีกครั้ง เป็นพื้นที่ให้ใจได้ฟื้นตัว

หากฟังได้โดยไม่รีบตัดสินใจว่าเขาจะเปลี่ยนได้ไหม เราจะเปิดโอกาสให้เขาได้เริ่มต้นใหม่จากการรู้สึกว่า เขายังเป็นคนที่มีค่าในสายตาเรา นั่นก็เพราะว่า ครอบครัวคือพลังใจ ที่ดีที่สุดนั่นเอง

ใช้คำพูดแบบห่วงใย แทนกล่าวหา

คำพูดเปลี่ยนโลกได้ โดยเฉพาะในครอบครัว การกล่าวหามักทำให้ผู้ติดพนันถอยหนีหรือปิดใจ คำพูดแบบ เพราะเธอถึงเป็นแบบนี้ หรือ จะเสียคนไปถึงไหน อาจทำลายโอกาสในการเปลี่ยนแปลงได้ในพริบตา

ให้ลองเปลี่ยนเป็นคำพูดแบบห่วงใย เช่น ฉันเห็นว่าเธอเหนื่อย และไม่อยากให้มันหนักไปกว่านี้ หรือ ฉันไม่รู้จะช่วยยังไง แต่อยากให้เธอรู้ว่าเราไม่อยากเสียเธอไป คำเหล่านี้ไม่ได้ลดคุณค่าของเรา แต่เพิ่มคุณค่าของความสัมพันธ์ [3]

การสื่อสารเชิงห่วงใยไม่ใช่การยอมจำนน แต่มันคือการเปิดพื้นที่ให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้จริงในใจอีกฝ่าย

สรุป ครอบครัวคือพลังใจ และเป็นกุญแจของการเปลี่ยนแปลง

ครอบครัวคือพลังสำคัญที่สามารถเปลี่ยนคนติดพนันให้กลับมาได้ โดยไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างเพอร์เฟกต์ แค่มีใจเข้าใจ รับฟัง และกล้าสร้างขอบเขตอย่างชัดเจน ก็สามารถเปิดทางให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน

บทบาทของครอบครัวไม่ใช่แค่การให้คำปรึกษา แต่คือการเป็นระบบสนับสนุนที่มั่นคง หากสามารถประคองไปพร้อมกับผู้ติดพนันได้โดยไม่ละเลยตัวเอง ก็จะกลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ดีที่สุด

อย่าลืมว่าคุณก็สำคัญเหมือนกัน ระหว่างที่ช่วยเหลือคนใกล้ชิด อย่าลืมดูแลใจตัวเองด้วย เพราะการอยู่เคียงข้างใครในช่วงเวลายากๆ ต้องใช้พลังมากมาย และคุณก็สมควรได้รับความเข้มแข็งเช่นกัน

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง

  • Comment (3)
  • การเยียวยาจิตใจ หรือ การสนับสนุนจากคนรอบข้าง เป็นอะไรที่จะช่วยผลักดันให้หลุดพ้นจากความมืดมิดได้

  • กำลังใจจากคนใกล้ตัว เป็นสิ่งที่สำคัญมาก อย่าปล่อยให้คนติดพนันอยู่ตัวคนเดียว บอกเลยว่ามีโอกาสพลาดเป็นอย่างยิ่ง

  • ครอบครัวเนี่ยต้องยอมรับเลยว่า พวกเขามีส่วนช่วยให้ผมกลุดพ้นจากภัยร้ายที่เรียกว่าผีพนัน ซึ่งใช้เงลานานหลายปีกว่าจะออกมาได้ ขอขอบคุณทุกคนจากใจจริงๆ

แสดงความคิดเห็น