
การเลิกพนันคนเดียว ไม่ใช่แค่เรื่องของความตั้งใจหรือวินัยส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวพันกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว โดยเฉพาะ เพื่อนร่วมวง ที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อพฤติกรรมการพนันของเรา คนที่เล่นด้วยกัน พูดคุยเรื่องเดียวกัน และแชร์ประสบการณ์ร่วมกัน ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรที่ทำให้การถอนตัวเป็นเรื่องยาก
หลายคนอาจรู้สึกว่าหากตัดสินใจเลิกเล่น ก็จะต้องแยกตัวออกจากกลุ่มเพื่อนที่เคยสนิทสนมกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เจ็บปวดไม่น้อย เพราะไม่ใช่แค่เลิกเล่น แต่ยังเหมือนกับต้องเลิกความสัมพันธ์บางอย่างไปด้วย นั่นจึงทำให้หลายคนลังเลที่จะเปลี่ยนแปลง แม้รู้ว่าการเล่นพนันส่งผลเสียต่อชีวิตก็ตาม [1]
แม้ว่าเราจะมีความตั้งใจแน่วแน่แค่ไหน หากยังอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมๆ ที่เต็มไปด้วยการชักชวน การล่อใจ หรือความคุ้นเคย มันก็ยากที่จะรักษาการเปลี่ยนแปลงไว้ได้ในระยะยาว การเลิกเล่นพนันจึงไม่ใช่แค่การสู้กับตัวเอง แต่คือการสู้กับบริบทรอบตัวด้วย
การมีเพื่อนเล่นพนันด้วยกันทำให้ความรู้สึกผิดลดลง เพราะรู้สึกว่า ไม่ใช่แค่เราที่เล่น หรือ ทุกคนก็ทำกัน สิ่งนี้เรียกว่า Social Norm หรือบรรทัดฐานของกลุ่ม ซึ่งส่งผลให้พฤติกรรมที่ไม่ดีถูกมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา และสุดท้ายกลายเป็นความเคยชินที่เลิกได้ยาก
อีกทั้งเพื่อนร่วมวงยังเป็นแหล่งข้อมูลที่อาจสร้างความเข้าใจผิด เช่น บอกว่าเกมนี้มีเทคนิคเล่นยังไงให้ได้เปรียบ หรืออวดว่ามือขึ้นได้เงินเยอะ ซึ่งสร้างความรู้สึกว่าเราเองก็ทำได้ ทั้งที่ในความเป็นจริง การพนันเป็นเรื่องของความเสี่ยง และไม่มีสูตรสำเร็จใดๆ ที่จะรับประกันผลได้จริง
หากยังอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบเดิม การกระตุ้นให้กลับไปเล่นจะเกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งผ่านคำชวน การล้อเล่น หรือแม้แต่แค่ได้ยินเสียงชวนไปบ่อนก็พาใจแกว่งได้แล้ว ดังนั้น การจัดการกับสิ่งแวดล้อมจึงเป็นปัจจัยสำคัญเทียบเท่ากับการควบคุมใจตัวเอง
เพื่อนหลายคนรู้จักกันจากการเล่นพนัน และมักใช้เวลาร่วมกันในบ่อนหรือวงไพ่ ทำให้เกิดความผูกพันในลักษณะเฉพาะ การเลิกพนันคนเดียว เมื่อจะถอนตัวออกจากวงพนัน ก็เหมือนต้องถอนตัวจากมิตรภาพไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องยากทางอารมณ์
ในบางกรณี เพื่อนร่วมวงอาจรู้สึกว่าเรากำลัง ตีตัวออกห่าง หรือทำตัวเหนือกว่า ซึ่งอาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง หรือความไม่เข้าใจกันได้ การสื่อสารจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากเราเลือกจะเปลี่ยนแปลง ควรอธิบายเหตุผลด้วยความจริงใจ ไม่ตัดรอน แต่ชัดเจนในจุดยืน
การแยกตัวไม่ได้แปลว่าเราเลิกเป็นเพื่อนกัน แต่คือการรักษาตัวเองให้พ้นจากสิ่งที่ยังควบคุมไม่ได้ เมื่อเรามั่นคงพอแล้วจึงค่อยกลับไปสานสัมพันธ์ในแบบที่ไม่เกี่ยวข้องกับการพนันก็ยังไม่สาย [2]
หนึ่งในวิธีที่ช่วยให้เลิกเล่นได้จริง คือการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมและกลุ่มคนที่เราใช้เวลาร่วมด้วย การเข้าสู่กลุ่มที่สนับสนุนพฤติกรรมเชิงบวก เช่น กลุ่มออกกำลังกาย กลุ่มอาสา หรือกลุ่มคนที่เคยเลิกพนันได้สำเร็จแล้ว จะช่วยเสริมแรงใจและลดความรู้สึกโดดเดี่ยวลงได้มาก
กลุ่มใหม่เหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเข้าใจเรื่องการพนันโดยตรง แค่เป็นกลุ่มที่มีเป้าหมายเหมือนกัน เช่น อยากพัฒนาตัวเอง อยากสร้างความมั่นคง ก็เพียงพอแล้วที่จะกลายเป็นแรงหนุนที่มั่นคงในระยะยาว
การมีเพื่อนใหม่ที่มองชีวิตในมุมบวก จะช่วยให้เราเลิกคิดถึงวงจรเดิมๆ และเริ่มเห็นคุณค่าของการใช้ชีวิตแบบที่ไม่ต้องอาศัยการพนันเพื่อให้รู้สึกดีหรือสนุกอีกต่อไป [3]
แม้ว่าเราจะตัดสินใจเลิกเล่น แต่เพื่อนบางคนอาจยังไม่พร้อมเปลี่ยนแปลง และอาจพยายามชักชวนให้เรากลับไปเล่นอีก สิ่งที่เราควรทำคือการวางขอบเขตให้ชัดเจน ไม่จำเป็นต้องตัดเพื่อน แต่ต้องรู้ว่าข้อจำกัดของเราอยู่ตรงไหน
อาจใช้วิธีบอกตรงๆ ว่า ตอนนี้ฉันกำลังพยายามเลิกเล่น ขอไม่พูดเรื่องพนันหรือชวนไปเล่นนะ หากเพื่อนเคารพเรา เขาจะเข้าใจและหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านั้น แต่ถ้าไม่ ก็เป็นสัญญาณว่าเราต้องเลือกปกป้องตัวเองมาก่อนความสัมพันธ์นั้น
การรับมือกับแรงกดดันจากเพื่อนต้องใช้ความกล้าและความมั่นคงทางใจ ซึ่งสิ่งนี้จะพัฒนาได้เมื่อเรารู้เป้าหมายของตัวเองชัดเจนว่าต้องการเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตที่ดีกว่าเดิม [4]
หากรู้สึกว่าเพื่อนบางคนคือปัจจัยเสี่ยงจริงๆ การถอยห่างไม่ใช่เรื่องผิด บางครั้งความห่างจะทำให้เราเห็นภาพชัดขึ้น และสามารถกลับไปเจอกันใหม่ในวันที่เราเข้มแข็งพอ
ไม่จำเป็นต้องประกาศเลิกคบ แค่ลดการพบปะหรือเปลี่ยนหัวข้อพูดคุย ไม่ไปในสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการพนัน ก็สามารถช่วยให้การฟื้นตัวของเราง่ายขึ้นและไม่ต้องรู้สึกผิดกับใคร
เมื่อเวลาผ่านไป เราอาจเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนคนนั้นเปลี่ยนตามก็ได้ เพราะเมื่อเราเปลี่ยนได้ เขาก็อาจเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองเช่นกัน
ในอนาคต หากเราสามารถควบคุมใจตัวเองได้ดีพอ การกลับไปเจอเพื่อนเก่าก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องหลีกเลี่ยง หากแต่ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของความมั่นคง ไม่ใช่ความอ่อนไหวหรือเสี่ยงต่อการกลับไปพฤติกรรมเดิม
การกลับไปเจอกลุ่มเดิมอาจช่วยให้เราทดสอบตัวเองว่าฟื้นตัวได้แค่ไหน และสามารถอยู่ในวงสังคมเดิมโดยไม่ตกหลุมพรางอีกหรือไม่ ทั้งนี้ ต้องมีสติและไม่ประมาทกับอารมณ์และสถานการณ์ที่คุ้นเคย
หากทำได้ นอกจากจะเป็นการยืนยันความแข็งแรงในจิตใจของเราแล้ว ยังอาจเป็นการส่งต่อพลังบวกให้กับเพื่อนๆ ที่ยังติดอยู่ในวังวนเดิมให้เริ่มคิดและเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับเรา
การเลิกเล่นพนันไม่ได้สำเร็จจากแรงใจคนเดียวเท่านั้น แต่ต้องมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อพฤติกรรมของเรา หากยังอยู่ในวงเดิม ยากนักที่จะเปลี่ยนแปลงได้อย่างถาวร
การเริ่มต้นใหม่ด้วยกลุ่มใหม่ หรือวางขอบเขตกับกลุ่มเดิม คือทางเลือกที่แม้ไม่ง่าย แต่มีผลลัพธ์ระยะยาวที่คุ้มค่า ความสัมพันธ์ใหม่ๆ ที่สร้างบนพื้นฐานของความเข้าใจและสนับสนุนกันจะกลายเป็นแรงผลักดันที่มั่นคงในเส้นทางฟื้นฟูชีวิต
เพราะบางครั้ง การเลิกพนันคนเดียว แค่เปลี่ยนเพื่อนร่วมทาง ก็เปลี่ยนปลายทางของชีวิตได้ทั้งชีวิต
ตอนเล่นได้เพื่อนมีเป็นร้อย พอตอนเสียเราซึมเศร้าอยู่คนเดียว ไม่มีคนมาสนใจเราหรือแคร์เราหรอก เพื่อนปลอมๆพวกนั้นไม่ควรนับว่าเป็นเพื่อนด้วยซ้ำ
เพื่อนๆที่ชวนก็ถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง เพราะการที่เราพยายามเลิก แต่ถูกชักจูงโดยการชวนจากเพื่อนๆ มันก็เป็นอะไรที่ง่ายดายในการเอนไปตามคำเชิญชวน
เอาจริงๆ ของพวกนี้มันขึ้นอยู่กับแต่ละคนเลย บางคนสามารถเลิกได้ง่ายๆด้วยตัวเอง บางคนต้องอาศัยคนรอบข้าง แต่สุดท้ายก็ต้องใช้เวลากว่าจะเลิกได้จริงๆ